หยุด!! 7 พฤติกรรม ที่ทำให้รักษาฝ้าไม่หายซักที

เขียนโดย: manee_ หมวดหมู่บทความ: การดูแลผิวหน้า เขียนเมื่อ: 2015-10-16 อ่านแล้ว: 14540 ความคิดเห็น: 0
ปัญหากวนใจของสาวๆ คงหนีไม่พ้น “ฝ้า” อย่างแน่นอน แต่ถ้าเกิด “ฝ้า” ขึ้นบนใบหน้าแล้ว เราก็ต้องดูแลผิวหน้ากันดีๆ เพื่อให้รอยฝ้าจางลง แต่สงสัยกันบ้างไหมคะ ว่าทำไมรักษายังไง “ฝ้า” ก็ไม่จางลงสักที เรามาดูกันดีกว่า ว่ามีพฤติกรรมใดบ้าง ที่ทำให้ “ฝ้า” ไม่จางลงสักที!


พฤติกรรมที่ 1 - ไม่ค่อยหลบแดด    
     แสงแดด สามารถทำร้ายผิวหน้าให้เกิดรอยฝ้าได้ดีอันดับต้นๆเลยทีเดียว เพราะแสงแดดจะปล่อยคลื่นรังสี UV เมื่อได้รับรังสี UVA และ UVB จัดๆติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายที่เพิ่มขึ้น จนรอยฝ้าเริ่มลอยเด่นชัดตามส่วนต่างๆของใบหน้า ไม่หายสักที..


วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!
     ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เหมาะกับสภาพผิว และสถานการณ์นั้นๆ เช่น..
(1.)หากอยู่แต่บ้าน หรือออฟฟิศไม่ค่อยได้ออกกลางแจ้ง ก็ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF15-30 PA+++ เพื่อป้องกันรังสีจากจอคอมและหลอดไฟ
(2.)หากต้องทำงานกลางแจ้งทั้งวัน ควรเลือกทาครีมกันแดดที่ค่า SPF50 PA++++ เพื่อป้องกันแสงแดดแรง และควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง รวมถึงสวมเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด และสวมหมวกปีกกว้าป้องกันรังสี UV ก็จะทำให้รอยฝ้าจางลงได้ดี
 


พฤติกรรมที่ 2ใช้ครีมทาฝ้าไม่ได้มาตราฐาน
     การเลือกใช้ครีมทาฝ้าที่ไม่มีแหล่งที่มา แหล่งผลิต ไม่ระบุชื่อบริษัท ไม่มีส่วนผสมที่ชัดเจน ก็จะทำให้หน้าขาวไว แต่ฝ้าก็ฝังลึกกลับมายิ่งกว่าเดิม เมื่อหยุดใช้!


วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!
     ทางที่ดีหากอยากให้รอยฝ้าจางลงอย่างปลอดภัย และเห็นผล ก็ควรเลือกครีมทาฝ้าที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพของครีมจากสถาบันที่เชื่อถือได้ ครีมทาฝ้าที่ดีควรผลิตจากส่วนผสมของธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยไม่มีเคมีทำร้ายผิวหน้าให้เกิดรอยฝ้าฝังลึก อย่างสารไฮโดรคิวโนน สารปรอท เป็นต้น
 

พฤติกรรมที่ 3แพ้เครื่องสำอาง
     ปกติสาวๆก็มักจะแต่งหน้าไปไหนมาไหนอยู่แล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่า สาเหตุที่ทำให้ฝ้าไม่จางลงสักที มักเกิดจากอาการแพ้เครื่องสำอางได้เช่นกัน อาการแพ้เครื่องสำอาง เช่นน้ำหอม สี สารกันเสีย เครื่องสำอางบางชนิดที่มีฮอร์โมนเพศผสมอยู่ ก็ทำให้เกิดรอยด่างดำแบบฝ้าได้


วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!
    ไม่ควรเปลี่ยนแปลงเครื่องสำอางบ่อยๆ เพราะอาจทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย การใช้ควรทดลองบางบริเวณก่อน เช่น ใต้คาง ใต้ท้องแขน แต่หากใช้เครื่องสำอางชนิดไหนแล้วเกิดการแพ้ ควรจะอ่านรายละเอียดของสารประกอบในเครื่องสำอางนั้นว่ามีสารตัวใดอยู่บ้าง ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการแพ้ เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงสารตัวนั้นเมื่อจะซื้อเครื่องสำอางชนิดอื่นอีกต่อไป
 


พฤติกรรมที่ 4พักผ่อนน้อย
     คนที่พักผ่อนน้อย ไม่ค่อยมีเวลานอน นอกจากจะทำให้ผิวหนาเกิดริ้วรอย สิว หน้าหมองคล้ำแล้ว เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอระบบภายในร่างกายก็จะรวน มีผลต่อฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้ไม่ค่อยดี จนเป็นสาเหตุให้เกิดอาการเครียด มีอนุมูลอิสระ ส่งผลให้เมลานินทำงานได้ไม่ค่อยดี รอยฝ้าจึงชัดมากยิ่งขึ้น!

วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!
     พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด ดื่มน้ำ หรือน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งเล็กน้อยก่อนนอน ก็จะทำให้นอนหลับง่ายสบายมากยิ่งขึ้น เมื่อรน่างกายพักผ่อนเพียงพอ คลายความเครียดแล้ว รอยฝ้าก็จะค่อยๆจางลงได้ดี ผิวเปล่งปลั่ง ลดริ้วรอย และสิวได้
 


พฤติกรรมที่ 5สารอาหารไม่เพียงพอ
     หากใครที่ชอบทานแต่ของหวาน ของทอด ของมัน อาหารฟาสฟู้ด เครื่องดื่มแอลกอฮอล ไม่ค่อยได้ทานผัก ผลไม้ หรือผู้ที่ขาดสารอาหารจพวกวิตามินบี 12 ก็จะมีปัญหาเกิดรอยฝ้า กระ ตามส่วนต่างๆของใบหน้า รอยฝ้าจึงเด่นขึ้น


วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!
     เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างการทานผัก ผลไม้ที่มีส่นประกอบของวิตามินซี วิตามินบี12 แร่ธาตุ และไฟเบอร์ รวมถึงดื่มน้ำสะอาดให้ได้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ก็จะช่วยให้ร่างกายเกิดการต่อต้านอนุมูลอิสระ ชวยขับถ่ายสารพิษ ทำให้รอยฝ้าจางลงได้เป็นอย่างดี
 


พฤติกรรมที่ 6ยังทานยาคุม
     ยาคุม มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศ ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น สาวๆที่ทานยาคุมจึงมีรอยฝ้าขึ้นได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ทานยาคุม รวมถึงคนที่ตั้งครรภ์ก็จะมีรอยฝ้าได้เช่นกัน


วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!
     หากจำเป็นต้องทานยาคุมจริงๆ ก็ควรเลือกทานยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนที่น้อยลง หากไม่แน่ใจว่ายาคุมตัวไหนมีปริมาณยาคุมเท่าไหร่ ควรปรึกษาเภสัช หรือปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาคุมที่ปริมาณน้อยลง แต่หากหยุดทานยาคุม หรือคนที่ตั้งครรภ์คลอดลูกแล้ว รอยฝ้าก็จะจางลงได้เองตามธรรมชาติ
 


พฤติกรรมที่ 7ไม่ล้างหน้าก่อนนอน
     สิ่งสกปรก สารเคมีจากเครื่องสำอางที่เกาะอยู่บนใบหน้า จะส่งผลให้รอยฝ้าชัดมากยิ่งขึ้น หากลืมล้างหน้าก่อนนอนบ่อยๆ ก็จะส่งผลให้เคมีสิ่งสกปรกสะสมในชึ้นผิว ทำให้เมลานินก่อตัว ถึงจะทาครีมรักษาฝ้าดีแค่ไหน ถ้าไม่ล้างหน้าก่อนนอน รอยฝ้าก็ไม่จางลงแน่นอน


วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุด!
     ควรเลือกทำความสะอาดผิวหน้าให้ได้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น โดยเลือกวิธีทำความสะอาดใบหน้าด้วยทฤษฎีล้างหน้าตามแนวรูขุมขน จะช่วยให้สิ่งสกปรก สารเคมีจากเครื่องสำอางหลุดได้ง่าย และครีมบำรุงผิว รวมถึงครีมทาฝ้าก็จะซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น รอยฝ้าก็จะค่อยๆจางลงได้ดี
 
การดูแลป้องกันรักษาฝ้านั้น ต้องใช้ความอดทนและมีวินัยสูง การรักษาควรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และควรเลือกใช้ครีมรักษาฝ้าดีๆ อย่างครีมรักษาฝ้า สูตรหัวใชเท้า Manee Skincare ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติไม่ทำร้ายผิวหน้า ช่วยบรรเทา ลดรอยฝ้าได้ดี!

แสดงความคิดเห็น

รหัสรูปภาพ


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม