ความแตกต่างระหว่าง ฝ้า และ กระ
ฝ้า : มีลักษณะดำเป็นปื้น หรือว่าเป็นแผ่นออกสีน้ำตาล ตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนๆ ถึงสีคล้ำเข้ม บริเวณที่พบบ่อยๆได้แก่ สองข้างแก้ม หน้าผาก โหนกคิ้วหรือริมฝีปาก และบริเวณจมูก หรือบางครั้งอาจจะขึ้นตรงบริเวณหน้าอกได้เช่นกัน
กระ : มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน ถึงเข้ม ไม่นูน บริเวณที่พบจะเกิดขึ้นที่ หน้าผาก โหนกแก้ม แก้ม ดั้งจมูก บริเวณเหนือริมฝีปากบน กระ มีหลายชนิด กระเนื้อ กระลึก และกระสีหรือกระแดดค่ะ ซึ่งต่างจากฝ้า เพราะเป็นจุดเล็กๆ และกระจายเยอะกว่า
ปัญหา ฝ้า และ กระ เหล่านี้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากรังสี UVA / UVB ที่เข้ามาทำร้ายผิวโดยตรงเป็นเวลานานๆ ทำให้เม็ดสีเมลานินมีการเกาะตัวเป็นกระจุก จนทำให้เกิดจุดกระ และรอยฝ้า ขึ้นบนใบหน้า ซึ่งฝ้า และ กระ นี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นจากแสงแดดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ฝ้า กระ ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากฮอร์โมนผิดปกติภายในร่างกาย และการแพ้เครื่องสำอางค์ได้อีกด้วย
วิธีดูแลรักษา ฝ้า และ กระ
1.หลีกเลี่ยงแสงแดด จากความร้อน โดยใช้ ครีมกันแดดที่ค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป รวมทั้งต้องมี PA+++ เพื่อป้องกันรังสี UV ได้ทั้ง UVA และ UVB และต้องใช้สิ่งกำบัง หรือป้องกัน เช่น ร่ม หมวก ผ้า ด้วยค่ะ
2. พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้ ผ่องใส ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย ไม่เครียดหรือ วิตกกังวล เพราะอาจเกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนได้
3.ไม่ควรใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ หรือ สารอันตรายอื่นๆ เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน เพราะจะทำให้ผิวหน้ามีอาการหนักขึ้นกว่าเดิม อาจจะขาวและฝ้า กระหายไว้ในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นจะผิวเสียในที่สุด
4.รักษาด้วยครีมทาฝ้า กระ ที่เป็นสูตรธรรมชาติ ที่มีส่วนประกอบของหัวไชเท้ารวมอยู่ด้วย เพื่อเป็นการลดรอยดำจากฝ้า กระ ได้ดี
5.พอกหน้าด้วยหัวไชเท้า นำหัวไชเท้ามาปั่นให้ละเอียด บีบมะนาวเล็กน้อย พอกหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาที จะช่วยให้รอยดำจากกระ ฝ้า จางลง เมื่อทำเป็นประจำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
กระเป็นจุดเล็กๆที่สามารถรักษาได้ง่าย และเห็นผลไว ส่วนฝ้าที่เป็นรอยปื้นใหญ่ฝังลึก สามารถรักษาได้ทั้งฝ้าและกระ แต่ต้องใช้เวลานานสักหน่อย อยู่ที่การดูแลคล้ายกัน และ ต้องใส่ใจ แล้วรอยฝ้า กระ ก็จะค่อยจางลง แต่เราก็อย่าลืมว่า นอกจากการเลือกครีมรักษาฝ้าที่ไม่มีสารอันตราย และเหมาะกับสภาพผิวแล้ว เราก็ควรดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไปควบคู่กัน รอยฝ้า กระ จะจางลง และมีผิวที่สุขภาพดีกว่าเดิมอีกด้วยนะคะ
ฝ้า : มีลักษณะดำเป็นปื้น หรือว่าเป็นแผ่นออกสีน้ำตาล ตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนๆ ถึงสีคล้ำเข้ม บริเวณที่พบบ่อยๆได้แก่ สองข้างแก้ม หน้าผาก โหนกคิ้วหรือริมฝีปาก และบริเวณจมูก หรือบางครั้งอาจจะขึ้นตรงบริเวณหน้าอกได้เช่นกัน
กระ : มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน ถึงเข้ม ไม่นูน บริเวณที่พบจะเกิดขึ้นที่ หน้าผาก โหนกแก้ม แก้ม ดั้งจมูก บริเวณเหนือริมฝีปากบน กระ มีหลายชนิด กระเนื้อ กระลึก และกระสีหรือกระแดดค่ะ ซึ่งต่างจากฝ้า เพราะเป็นจุดเล็กๆ และกระจายเยอะกว่า
ปัญหา ฝ้า และ กระ เหล่านี้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากรังสี UVA / UVB ที่เข้ามาทำร้ายผิวโดยตรงเป็นเวลานานๆ ทำให้เม็ดสีเมลานินมีการเกาะตัวเป็นกระจุก จนทำให้เกิดจุดกระ และรอยฝ้า ขึ้นบนใบหน้า ซึ่งฝ้า และ กระ นี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นจากแสงแดดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ฝ้า กระ ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากฮอร์โมนผิดปกติภายในร่างกาย และการแพ้เครื่องสำอางค์ได้อีกด้วย
วิธีดูแลรักษา ฝ้า และ กระ
1.หลีกเลี่ยงแสงแดด จากความร้อน โดยใช้ ครีมกันแดดที่ค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป รวมทั้งต้องมี PA+++ เพื่อป้องกันรังสี UV ได้ทั้ง UVA และ UVB และต้องใช้สิ่งกำบัง หรือป้องกัน เช่น ร่ม หมวก ผ้า ด้วยค่ะ
2. พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้ ผ่องใส ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย ไม่เครียดหรือ วิตกกังวล เพราะอาจเกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนได้
3.ไม่ควรใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ หรือ สารอันตรายอื่นๆ เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน เพราะจะทำให้ผิวหน้ามีอาการหนักขึ้นกว่าเดิม อาจจะขาวและฝ้า กระหายไว้ในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นจะผิวเสียในที่สุด
4.รักษาด้วยครีมทาฝ้า กระ ที่เป็นสูตรธรรมชาติ ที่มีส่วนประกอบของหัวไชเท้ารวมอยู่ด้วย เพื่อเป็นการลดรอยดำจากฝ้า กระ ได้ดี
5.พอกหน้าด้วยหัวไชเท้า นำหัวไชเท้ามาปั่นให้ละเอียด บีบมะนาวเล็กน้อย พอกหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาที จะช่วยให้รอยดำจากกระ ฝ้า จางลง เมื่อทำเป็นประจำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
กระเป็นจุดเล็กๆที่สามารถรักษาได้ง่าย และเห็นผลไว ส่วนฝ้าที่เป็นรอยปื้นใหญ่ฝังลึก สามารถรักษาได้ทั้งฝ้าและกระ แต่ต้องใช้เวลานานสักหน่อย อยู่ที่การดูแลคล้ายกัน และ ต้องใส่ใจ แล้วรอยฝ้า กระ ก็จะค่อยจางลง แต่เราก็อย่าลืมว่า นอกจากการเลือกครีมรักษาฝ้าที่ไม่มีสารอันตราย และเหมาะกับสภาพผิวแล้ว เราก็ควรดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไปควบคู่กัน รอยฝ้า กระ จะจางลง และมีผิวที่สุขภาพดีกว่าเดิมอีกด้วยนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น