รวบรวมคำถามยอดฮิต เกี่ยวกับรอยฝ้า!!
ถาม – ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ตอบ – ปัญหารอยฝ้าเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น
1. แสงแดด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า จะสังเกตได้จาคนบริเวณผิวหน้าที่ถูกแสงแดดสม่ำเสมอ เช่น จมูก แก้ม หน้าผาก ก็จะเกิดรอยฝ้าตามส่วนนั้นๆ และฝ้าจะเข้มขึ้นถ้าไปตากแดดเป็นเวลานาน
2. พันธุกรรม ทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่ามีผลแน่นอน! หากใครที่มีปู่ ย่า ตา ยาย เป็นฝ้ามาก่อน ก็มีโอกาสที่จะเป็นฝ้าได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะคนที่มีผิวสีคล้ำ หรือมีเซลล์สีค่อนข้างมาก
3. การตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเพศหญิงมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวหนังคล้ำขึ้นหรือเป็นฝ้า ซึ่งพบได้บ่อย บางครั้งเมื่อคลอดบุตรแล้ว แม้ฝ้าจะจางลงบ้างเป็นบางราย
4. ใช้ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยากันชัก หรือยารักษาโรคหัวใจบางชนิด
5. แพ้สารเคมี การแพ้น้ำหอมหรือเครื่องสำอาง สารที่ให้ความหอมบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับแสงแดด แล้วทำให้เกิดรอยคล้ำได้ เช่น สบู่หอม หรือน้ำยาหลังโกนหนวด
ถาม – ครีมกันแดด สามารถรักษารอยฝ้าได้ไหม?
ตอบ – สามารถช่วยป้องกันได้ในระดับที่ดีเลยทีเดียว สำหรับผู้ที่ยังไม่มีปัญหารอยฝ้า หรือเริ่มมีรอยฝ้าเล็กน้อย (รวมถึงฝ้าฝังลึก) เพราะครีมกันแดดจะช่วยป้องกันรังสี UV ไม่ให้เข้ามาทำร้ายผิวหน้าโดยตรง เพื่อให้ผิวหน้าของคุณได้ซ่อมแซม และลดการเกิดเม็ดสีเมลานินบนใบหน้าได้ในระดับหนึ่ง
ข้อแนะนำเพิ่มเติม : ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 PA+++ ทาก่อนออกแดด 15 นาที เพื่อช่วยป้องกันรังสี UVA/UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อช่วยคงประสิทธิภาพของครีมกันแดด
ถาม – เคยอ่านเจอว่า “ไฮโดรควิโนน ช่วยลดรอยดำฝ้าได้” จริงหรือไม่?
ตอบ – ไฮโดรควิโนนสามารถทำให้รอยดำจางลงได้ แต่ต้องได้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนังเท่านั้น! ห้ามซื้อใช้เองเด็ดขาด! ไฮโดรควิโนนเป็นสารไฮดรอกซีฟีนอล ที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ทำให้การผลิตเม็ดสีน้อยลง จึงทำให้รอยฝ้าจางลงได้อย่างเห็นผล โดยปกติแล้ว สารไฮโดรควิโนน ที่แพทย์ระบุให้ใช้ได้ควรมีความเข้มข้นร้อยละ 2-4 เท่านั้น!
คำเตือน : การใช้ไฮโดรควิโนนขนาดสูง ต่อเนื่องกันนานๆ จะทำให้ผิวหนังระคายเคือง รอยฝ้าคล้ำชัดเจนขึ้นจากปฏิกิริยาแพ้แสงแดด หรือเกิดฝ้าถาวรได้ ทางที่ดีควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์โดยตรง
ตอบ – หัวไชเท้านั้นมีฤทธิ์แรงมากเพราะมีความเผ็ดร้อนอยู่ในตัวจึงช่วยลดรอยฝ้าได้ดี แต่หากผิวหน้าของเราได้รับสารเหล่านี้โดยตรงจะทำให้ผิวหน้าแสบแดงได้เมื่อใช้หัวไชเท้าสดๆ จึงไม่เหมาะกับผิวบบอบบาง ผิวแห้ง และผิวแพ้ง่าย
ข้อแนะนำเพิ่มเติม : ควรผสมหัวไชเท้ากับวุ้นว่านหางจระเข้ หรือจมูกข้าสาลีบดละเอียดเพื่อช่วยอาการแสบร้อนจากหัวไชเท้า
ตอบ – เลเซอร์ (Laser) เป็นการรักษาโดยใช้พลังงานแสงไปยังบริเวณผิวหนังที่มีรอยคล้ำ มีผลทำให้เม็ดสีเมลานินในบริเวณนั้นถูกทำลายจนรอยฝ้าจางลง การใช้เลเซอร์ช่วยให้เห็นผลการรักษาได้ค่อนข้างรวดเร็ว เหมาะกับผู้ที่มีผิวค่อนข้างขาว และ มีฝ้าไม่มากนัก ดังนั้นหากอยากลองเลเซอร์ฝ้าควรหมั่นปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยว และตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนเลือกรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์
คำเตือน : การทำเลเซอร์อาจมีผลดีแค่บางรายเท่านั้น เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่างที่อาจทำให้การทำเลเซอร์กับคนหนึ่งอาจไม่ได้ผลดีเท่ากับอีกคน หลายคนรักษาแล้วหน้าคล้ำกว่าเดิม หน้าไหม้ บางคนมีปัญหาถึงขั้นฝ้าไม่หาย ยังฝังลึกมากกว่าเดิม ทำให้หน้าบาง ไวต่อแดด แถมค่าใช้จ่ายยังสูงอีกด้วย
ถาม – อยากลองใช้ครีมรักษาฝ้า Manee Skincare แต่กลัวแพ้หน้าพัง ทำอย่างไรดี?
ตอบ – ครีมรักษาฝ้าของ Manee Skincare มีสารสกัดจากหัวไชเท้า ช่วยให้รอยฝ้าลดเลือนลงได้ดี และยังมีส่วนผสมจากสมุนไพรนานาชนิดที่ช่วยำรุง และฟื้นฟูกระตุ้นเซลล์ผิว ให้เปล่งปลั่งกระจ่างใสได้ โดยไม่เกิดอาการแพ้ หรือแสบแดง (ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้สมุนไพร)
ผลิตภัณฑ์จาก Manee Skincare ถูกคิดค้นสูตร และควบคุมการผลิตโดยเภสัชกรมณีรัตน์ ที่ได้รับใบประกอบโรคศิลป์ สาขาเภสัชกรรม ด้านสมุนไพร จึงศึกษา วิจัย และคิดค้นสูตร เพื่อความสวย และสุขภาพดี จากสารสกัดจากธรรมชาติในอัตราส่วนที่สูงคิดเป็น 20-80% ทำให้เห็นผลจริง โดยได้รับมาตรฐานการผลิตจาก GMP และได้ใบรับรองจาก อย. ในสินค้าทุกรายการ
และความหอมของผลิตภัณฑ์ด้วย Essential Oil ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว ใช้ได้แม้แต่คนที่แพ้น้ำหอม เพราะเราใส่ใจอยากให้ทุกคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Manee Skincare ปลอดภัยไม่แพ้ และได้ผลแน่นอน!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น